ดอมินิก ซโบสไล กลายเป็นฮีโร่ของลิเวอร์พูล หลังรับหน้าที่ยิงจุดโทษนาทีที่ 88 พาทีมบุกชนะ อินเตอร์ มิลาน 1-0 พร้อมยุติสถิติไม่แพ้ใครในบ้านยุโรปของงูใหญ่ที่ยาวนานกว่า 18 นัด ตั้งแต่กันยายน 2022 ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นั่งมองอยู่ไกลจากมิลาน หลังถูกตัดชื่อจากเกมนี้ท่ามกลางกระแสดราม่า

การตัดสินใจของบอร์ดและกุนซือ อาร์เน่ สลอต ในการพักซาลาห์ ถูกจับตามองอย่างหนัก แต่ผลงานในสนามกลายเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แข้งลิเวอร์พูลช่วยกันเล่นอย่างมีวินัย ปิดพื้นที่ และตั้งรับแน่นหนา จนทำให้อินเตอร์ ทีมที่เข้าชิงชปล. 2 จาก 3 ปีหลัง ไม่สามารถเจาะแนวรับได้แบบที่เคยทำ

เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม ก่อน VAR แจ้งผู้ตัดสิน เฟลิกซ์ ซไวย์เออร์ ให้ตรวจสอบจังหวะ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ดึงเสื้อ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ในเขตโทษ แม้จะเป็นจุดโทษที่ดูเบา แต่ซโบสไลก็ซัดเต็มข้อเสียบสามเหลี่ยมเหนือมือ ยานน์ ซอมเมอร์ ส่งแฟนหงส์เฮลั่นอัฒจันทร์

ตลอดเกมจะได้ยินแต่เสียงแฟนลิเวอร์พูลร้องเพลงเชียร์สลอต ต่างจากเพลงของซาลาห์ที่หายไปทั้งคืน สะท้อนสถานการณ์ในทีมอย่างชัดเจน

แม้ลิเวอร์พูลมีปัญหาตัวผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายจนม้านั่งสำรองไม่เต็ม แต่สลอตยังส่งแนวรุกค่าตัวรวมกว่า 204 ล้านปอนด์อย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัก และ ฮูโก้ เอกีติเก้ ลงล่าตาข่าย ขณะที่แดนกลางหมุนเวียนอย่างลื่นไหลระหว่าง ซโบสไล, เคอร์ติส โจนส์ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ทำให้อินเตอร์รับมือได้ลำบากในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลเคยส่งบอลเข้าประตูจากลูกโหม่งของ อิบราฮิม่า โกนาเต้ แต่ถูก VAR ริบคืนเนื่องจากบอลโดนแขนเอกีติเก้ก่อน ขณะที่อินเตอร์มีลุ้นจากลูกโหม่งของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แต่ อลิสซอน โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทีมไว้

ครึ่งหลังเกมค่อนข้างอึด แต่การเปลี่ยนตัวส่ง เวิร์ตซ์ และ คอเนอร์ แบรดลีย์ ลงมาเพิ่มความสดทำให้ลิเวอร์พูลมีจังหวะหวาดเสียวหลายครั้ง โดยเฉพาะแบรดลีย์ที่สร้างโอกาสสำคัญทันทีที่ลงสนาม และมีส่วนร่วมกับช็อตที่นำไปสู่จุดโทษชัย

เมื่อครบ 90 นาที สลอตสามารถยิ้มได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผลงานเกมนี้ทำให้เห็นชัดว่า ห้องแต่งตัวยังอยู่ข้างกุนซือดัตช์รายนี้ แม้ซาลาห์จะเป็นปัญหาใหญ่ก็ตาม

บททดสอบผ่านไปหนึ่งด่าน และลิเวอร์พูลก็ยังยืนหยัดในเวทียุโรปอย่างสง่างาม.